โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง สัตว์ป่าสงวน
1. นาย ทิวากร พรมแก้ว เลขที่ 6
2. นางสาว นงนภัส มณี เลขที่ 17
3. นางสาว อารยา แสงทอง เลขที่ 28
อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์ สุรมย์ รุ่งเรือง
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก)
สังกัดเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
หัวข้อโครงงาน : สัตว์ป่าสงวน
ประเภทของโครงงาน : การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ผู้เสนอโครงงาน : 1. นาย ทิวากร พรมแก้ว เลขที่ 6
2. นางสาว นงนภัส มณี เลขที่ 17
3. นางสาว อารยา แสงทอง เลขที่ 28
ครูที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ สุรมย์ รุ่งเรือง
ปีการศึกษา : 2558
บทคัดย่อ
''สัตว์ป่าสงวน''นี้เป็นโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Education Media Development) ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา ซึ่งผู้จัดทำจะใช้ Blogger ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง “สัตว์ป่าสงวน” เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งของ อาจารย์ สุรมย์ รื่นรม อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้ให้คำแนะนำ และข้อคิดเห็นต่างๆมาโดยตลอด และ ขอขอบคุณ และขอบใจ ครอบครัวและเพื่อนๆของผู้จัดทำโครงงาน ที่คอยให้กำลังใจ และถามไถ่ความเป็นไปของโครงงานอยู่เสมอ ทำให้ผู้จัดทำโครงงานมีกำลังใจที่จะพัฒนาโครงการจนสำเร็จได้ ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
จัดทำโดย
1. นาย ทิวากร พรมแก้ว
2. นางสาว นงนภัส มณี
3. นางสาว อารยา แสงทอง
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
บทที่ 1 บทนำ
แนวคิด ที่มา และความสำคัญ
วัตถุประสงค์ ขอบเขตของโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
เว็บบล็อก (WebBlog)
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน
วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
ขั้นตอนการดำเนินงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานโครงงาน
ผลการพัฒนาเว็บบล็อก
ตัวอย่างการนำเสนอหน้าเว็บบล็อก
บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ
การดำเนินงานจัดทำโครงงาน
สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
ข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
บทที่ 1
บทนำ
สาระสำคัญของโครงงาน
เทคโนโลยีทางการสื่อสาร เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน เริ่มมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และมีส่วนช่วยสนับสนุนสื่อทางด้านการศึกษาอีกด้วยโดยสื่อสมัยใหม่นิยมเป็น สื่อการเรียนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพราะ สะดวกรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย
ในอดีตที่ผ่านมาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอุดมสมบูรณ์พื้นที่ป่า ยังคงปกคลุมทั่ว สัตว์ป่ามีอยู่อย่างชุกชุม มีการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยไม่รู้คุณค่า โดยเฉพาะสัตว์ป่า มีการล่าเป็นอาหารล่าเพื่อเป็นกีฬาและ ล่าเพื่อการค้าทั้งในประเทศ และ ส่งออกต่างประเทศ ประชาชนจึงควรเห็นถึงความงดงาม ความมีคุณค่า เกร็ดความรู้ต่างๆของสัตว์ป่าสงวนแต่ละชนิดรวมทั้งปัจจัยคุกคามจนทำให้สัตว์ป่าเหล่านั้นอยู่ในสภาวะวิกฤติประชากรเสี่ยงต่อการสูพันธุ์จะช่วยให้ทุกคนหันมาช่วยกันคุ้มครองป้องกันภัยให้สัตว์ป่าสงวนอยู่รอดสืบลูกหลานต่อไป นอกจากนี้เพื่อ เป็นบทเรียนที่คอยเตือนใจให้แต่ละคนร่วมมือหยุดยั้งการล่า การค้าสัตว์ป่า ให้สัตว์ป่าของประเทศไทยได้อยู่รอดปลอดภัยสามารถสืบเผ่าพันธุ์ให้คง อยู่ตลอดไป
ข้าพเจ้าจึงคิดทำโครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อทางการศึกษาเรื่อง ''สัตว์ป่าสงวน''โดยได้รวบรวมข้อมูล เนื้อหาความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวนและจัดทำเป็นเว็บบล็อก เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจและช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่าต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สัตว์ป่าสงวน
2. เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3. เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาโครงงานเกี่ยวกับ สัตว์ป่าสงวน เพื่อพัฒนาสื่อผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยใช้โปรแกรม Blogger นำเสนอ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน
2. ได้สื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน
ผลการพัฒนาเว็บบล็อก
- ด้วยระยะเวลาอันจำกัด รวมทั้งกิจกรรมของโรงเรียน จึงทำให้การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย
1. ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน
2. ได้สื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน
บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง สัตว์ป่าสงวน คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าเสนอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
สัตว์ป่าสงวน
สัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายาก 15 ชนิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ได้แก่
แมวลายหินอ่อน พะยูน เก้งหม้อ นกกระเรียน เลียงผา กวางผา ละองหรือละมั่ง สมัน กูปรี ควายป่า แรด กระซู่ สมเสร็จ นกแต้วแล้วท้องดำ และนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
แมวลายหินอ่อน พะยูน เก้งหม้อ นกกระเรียน เลียงผา กวางผา ละองหรือละมั่ง สมัน กูปรี ควายป่า แรด กระซู่ สมเสร็จ นกแต้วแล้วท้องดำ และนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร
ข้อห้ามข้อบังคับบางประการจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ที่ควรทราบมีดังนี้
- สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ป่าที่ห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามครอบครองสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่สัตว์ที่ครอบครองเป็นสัตว์ที่มาจากการเพาะพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง จะต้องโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ในกรณีที่การล่าเป็นการล่าเพื่อปกป้องตนเองหรือผู้อื่นหรือทรัพย์สิน หรือเหตุอื่นที่เห็นว่าเป็นการกระทำที่ควรแก่เหตุ ไม่ต้องรับโทษ
- การห้ามการครอบครองและห้ามค้า มีผลไปถึงไข่และซากของสัตว์เหล่านั้นด้วย
- ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรังของสัตว์ ยกเว้นรังนกอีแอ่น (นกแอ่นกินรัง) ซึ่งต้องได้รับอนุญาตเช่นกัน
![]() | กระซู่ชื่อสามัญ : Sumatran Rhinocerosชื่อวิทยาศาสตร์ : Dicermocerus sumatraensis ชื่ออื่น : แรดสุมาตรา
เป็นแรดพันธุ์เล็กที่สุดในบรรดาแรด 5 ชนิดของโลก มี 2 นอ ความสูงที่ระดับไหล่ 1.0 - 1.4 เมตร น้ำหนัก 900-1,000 กก. มีขนปกคลุมทั้งตัว ปีนเขาเก่ง มีประสาทในการรับกลิ่นดีมาก เมื่อพบสิ่งกีดขวางจะไม่ข้าม แต่มักใช้หัวดันให้พ้นทางเดิน ชอบกินกิ่งไม้ ใบไม้และผลไม้ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนานประมาณ 7-8 เดือน ปัจจุบันหายากมาก คาดว่าจะพบได้ในบริเวณป่าทึบตามแนวพรมแดนไทย-พม่า และชายแดนไทย-มาเลเซีย รายงานล่าสุดในปี พ.ศ.2539 พบรอยเท้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมีกระจัดกระจายตามป่าต่าง ๆ แห่งละตัวสองตัว เช่น แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส เขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
![]() | เลียงผาชื่อสามัญ : Serowชื่อวิทยาศาสตร์ : Capricornis sumatraensis
เป็นสัตว์กีบคู่ มีเขาจำพวกแพะ ความสูงที่ระดับไหล่ 85-94 ซ.ม. น้ำหนักประมาณ 85-140 กก. อาศัยอยู่ตามภูเขาที่มีหน้าผาหรือถ้ำ สามารถเคลื่อนที่ในที่สูงชันอย่างว่องไวและปราดเปรียวมาก สามารถว่ายน้ำข้ามระหว่างเกาะกับแผ่นดินได้ มีอวัยวะรับสัมผัส ทั้งตา หู และจมูกดี กินพืชที่ขึ้นอยู่ตามที่สูง ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 7-8 เดือน ปัจจุบันลดจำนวนลงไปมากเนื่องจาก ถูกล่าเพื่อเอาเขาและทำน้ำมันเลียงผา
|
![]() | สมันชื่อสามัญ : Schomburgk’s Deerชื่อวิทยาศาสตร์ : Cervus schomburgki ชื่ออื่น : เนื้อสมัน
เป็นกวางขนาดกลาง ความสูงระดับไหล่ 1 เมตร ได้ชื่อว่ามีเขาสวยที่สุด การแตกแขนงของเขาเมื่อโตเต็มวัยจะมีลักษณะคล้ายสุ่มที่หงายขึ้น จึงเรียกว่า "กวางเขาสุ่ม" ชอบกินยอดหญ้าอ่อน ผลไม้ และใบไม้ อยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ อาศัยอยู่เฉพาะที่ราบต่ำในภาคกลางของประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ กรุงเทพฯ ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมันได้สูญพันธุ์ไปโดยสมบูรณ์เมื่อราวปี 2475 แม้แต่สมันตัวสุดท้ายของโลกก็ตายด้วยมือของมนุษย์
|
![]() | นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรชื่อสามัญ : White-eyed River-Martinชื่อวิทยาศาสตร์ : Pseudochelidon sirintarae ชื่ออื่น : นกเจ้าฟ้า
เป็นนกนางแอ่นชนิดหนึ่ง ขนาดวัดจากปลายจงอยปากถึงโคนหางยาวประมาณ 15 ซม. พบครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2511 บริเวณบึงบรเพ็ด จ.นครสวรรค์ เพียงแห่งเดียวในโลกและไม่พบที่อื่นอีกเลย เป็นนกที่อพยพมาในฤดูหนาว ส่วนในฤดูอื่นเชื่อว่าจะอยู่บริเวณต้นแม่น้ำปิง ชอบเกาะนอนในพงหญ้า นอนอยู่รวมกับฝูงนกนางแอ่นชนิดอื่น ๆ ตามใบอ้อ และใบสนุ่น โฉบจับแมลงเป็นอาหาร ปัจจุบันเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว
|
![]() | กูปรีชื่อสามัญ : Koupreyชื่อวิทยาศาสตร์ : Bos sauveii ชื่ออื่น : วัวเขาเกลียว(ลาว) โคไพร
เป็นสัตว์ป่าตระกูลเดียวกับกระทิงและวัวแดง ความสูงที่ระดับไหล่ 1.7-1.9 เมตร น้ำหนักประมาณ 700-900 กก. อยู่รวมกันเป็นฝูง 2-20 ตัว มีลักษณะพิเศษคือ ตัวผู้ที่โตเต็มที่มักจะมีปลายเขาที่แตกเป็นพู่ เนื่องจากมันชอบใช้เขาแทงดินเพื่องัดหาอาหารกิน ส่วนตัวเมียมีเขาลักษณะเป็นวงเกลียว ชอบกินหญ้า ใบไม้ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 9-10 เดือน พบในไทย ลาว เขมร และเวียดนามเท่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับกูปรีมีน้อยและยังถูกล่าอยู่เสมอเพราะเขามีราคาสูงมาก เป็นที่ต้องการของนักสะสม มีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ได้
|
![]() | นกกระเรียนชื่อสามัญ : Sarus Craneชื่อวิทยาศาสตร์ : Grus antigone sharpii ชื่ออื่น : _
อยู่ในตระกูลนกบินได้ขนาดใหญ่ที่สุด สูงประมาณ 150 ซม. พบตามหนอง บึง และท้องทุ่ง หากินเป็นคู่และกลุ่มครอบครัว จับคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว กินแมลง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ เมล็ดพืช และต้นอ่อนของพืชน้ำ ปัจจุบันไม่พบในประเทศไทยเพราะถูกล่า และแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย แต่ยังพบในประเทศลาวและเขมร
|
![]() | นกแต้วแล้วท้องดำชื่อสามัญ : Gurney's Pittaชื่อวิทยาศาสตร์ : Pitta gurney ชื่ออื่น : _
ขนาดลำตัววัดจากจงอยปากถึงโคนหางยาว 21 ซม. อาศัยอยู่เฉพาะในป่าดิบที่ราบต่ำ ชอบทำรังบนกอระกำ และกอหวาย ซึ่งมีหนามแหลม ชอบกินไส้เดือน ส่งเสียกร้อง "วัก วัก" เพื่อประกาศอาณาเขตและร้องหาคู่ ส่งเสียงร้อง "แต้ว แต้ว" ขณะตกใจ ฤดูผสมพันธุ์เริ่มเดือนพฤษภาคม ปัจจุบันพบแห่งเดียวในโลก ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม (เขานอจู้จี้) จ.กระบี่ คาดว่าเหลืออยู่ไม่เกิน 100 ตัว และมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ในไม่ช้าเนื่องจาก ถิ่นที่อยู่กำลังถูกบุกรุกอย่างรุนแรง
|
![]() | ควายป่าชื่อสามัญ : Wild Water Buffaloชื่อวิทยาศาสตร์ : Bubalus bubalis ชื่ออื่น : มหิงสา
เป็นบรรพบุรุษของควายบ้าน ขนาดของลำตัวใหญ่กว่าควายบ้าน รอบคอด้านหน้ามีรอยสีขาวเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวหงายอยู่ เรียกว่า "รอยเชียดคอ" ขาทั้งสี่มีสีขาวเหมือนใส่ถุงเท้า แต่ในธรรมชาติมักไม่เห็นถุงเท้านี้ เพราะควายป่าชอบแช่และลุยปลักโคลนจนถุงเท้าเปื้อนไปหมด ความสูงที่ระดับไหล่ 1.6-1.9 เมตร น้ำหนักถึง 800-1,200 กก. แต่ปราดเปรียวมาก ชอบนอนแช่ปลักให้ดินโคลนพอกลำตัวเพื่อป้องกันแมลงรบกวน มีนิสัยชอบอยู่เป็นฝูง เมื่อบาดเจ็บจะดุร้ายมาก กินใบไม้ หญ้า และหน่อไม้ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนานประมาณ 10 เดือน ปัจจุบันพบบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี เท่านั้น
|
![]() | แมวลายหินอ่อนชื่อสามัญ : Marbled Catชื่อวิทยาศาสตร์ : Pardofelis marmorata ชื่ออื่น : _
เป็นแมวป่าขนาดกลาง น้ำหนักประมาณ 4-5 กก. อยู่ในป่าดงดิบและป่าดิบชื้น ชอบอยู่บนต้นไม้ หากินในเวลากลางคืน อาหารได้แก่ แมลง งู นก หนู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก ปัจจุบันหายากมาก มีรายงานพบเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน
|
![]() | กวางผาชื่อสามัญ : Goralชื่อวิทยาศาสตร์ : Naemorhedus griseus ชื่ออื่น : ม้าเทวดา
มีลักษณะคล้ายแพะ ความสูงที่ระดับไหล่ 50-70 ซม. น้ำหนักประมาณ 20-32 กก. มีขาแข็งแรงสามารถกระโดดตามชะง่อนผาได้อย่างว่องไวและแม่นยำ พบตามยอดเขาสูงชัน สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี อาหารได้แก่ พืชตามสันเขาและหน้าผาหิน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 6-8 เดือน อายุประมาณ 8-10 ปี ปัจจุบันเหลืออยู่จำนวนน้อย พบบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น จ.ตาก
|
![]() | เก้งหม้อชื่อสามัญ : Fea’s Barking Deerชื่อวิทยาศาสตร์ : Muntiacus feai ชื่ออื่น : เก้งดำ, กวางจุก
เป็นเก้งที่มีสีคล้ำกว่าเก้งธรรมดา ทางด้านบนสีดำตัดกับสีขาวด้านล่างชัดเจน บริเวณโคนเขามีขนยาวแน่นและฟูเป็นกระจุก ชอบอาศัยอยู่เดี่ยว ๆ ในป่าดงดิบตามลาดเขา จะอยู่เป็นคู่เฉพาะในฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น กินใบไม้ หญ้าและผลไม้ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 6 เดือน พบบริเวณชายแดนไทย-พม่า และในภาคใต้ของไทย เป็นสัตว์ในตระกูลกวางที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
|
![]() | สมเสร็จชื่อสามัญ : Malayan Tapirชื่อวิทยาศาสตร์ : Tapirus indicus ชื่ออื่น : ผสมเสร็จ
เป็นสัตว์หากินกลางคืน น้ำหนักประมาณ 250-300 กก. มีประสาทสัมผัสทางกลิ่นและเสียงดีมาก มีจมูกเหมือนงวงช้าง รูปร่างเหมือนหมู เท้าเหมือนแรด จึงเรียกว่าผสมเสร็จหรือสมเสร็จ มักหากินตามที่รกทึบ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 13 เดือน พบบริเวณป่าชายแดนไทย-พม่า ตลอดลงไปจนถึงภาคใต้ของไทย
|
![]() | แรดชื่อสามัญ : Javan Rhinocerosชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhinoceros sondaicus ชื่ออื่น : แรดชวา
มีนอเดียว ความสูงที่ระดับไหล่ 1.70-1.75 เมตร น้ำหนัก 1,500-2,000 กก. ชอบนอนในปลัก โคลนตม หนองน้ำ เพื่อไม่ให้ถูกแมลงรบกวน มีสายตาไม่ค่อยดีนัก แต่ประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นดีมาก ชอบกินยอดไม้ ใบไม้และผลไม้ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 16 เดือน อาศัยอยู่ในป่าทึบ โดยเฉพาะบริเวณที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ครั้งหนึ่งเคยมีพบในบริเวณป่าชายแดนไทย พม่า ลงไปทางใต้ แต่ไม่มีใครพบแรดในธรรมชาติในเมืองไทยเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ประชากรแรดในประเทศอื่น ๆ ก็อยู่ในภาวะคล้ายคลึงกัน ปัจจุบันยังมีเหลือ
|
![]() | พะยูนชื่อสามัญ : Dugongชื่อวิทยาศาสตร์ : Dugong dugon ชื่ออื่น : หมูน้ำ, ปลาพะยูน
สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม น้ำหนักประมาณ 300 กก. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง กินหญ้าทะเลตามบริเวณน้ำตื้นใกล้ชายฝั่ง ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 1 ปี ลดจำนวนลงมากเพราะติดอวน และหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญถูกทำลาย ปัจจุบันพบอยู่บริเวณเกาะลิบงและหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ประมาณ 40-50 ตัว
|
![]() | ละอง, ละมั่งชื่อสามัญ : Eld's Deerชื่อวิทยาศาสตร์ : Cervus eldi ชื่ออื่น : _
ละอง เป็นชื่อเรียกตัวผู้ ส่วนละมั่งเป็นชื่อเรียกตัวเมีย ความสูงที่ระดับไหล่ 1.2 - 1.3 เมตร หนักประมาณ 95-150 กก. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน กินใบไม้ ใบหญ้า และผลไม้เป็นอาหาร ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องประมาณ 7-8 เดือน มีสองชนิดย่อย คือ C. e. thamin และC. e. siamensis ปัจจุบันละองและละมั่งได้
|
การสร้างเว็บบล็อก (Blogger)
- ขั้นตอนที่1 เข้าไปที่เว็บ http://www.blogger.com จะขึ้นหน้าจอตามรูป

- ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นทำการสมัคร (สำหรับบุคคลที่ยังไม่มี Gmail ) ถ้ามีแล้วให้ล๊อกอินได้เลย
- ขั้นตอนที่ 3 ให้กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง
- ขั้นตอนที่ 4 คลิกที่ปุ่มสร้างบล๊อกใหม่
- ขั้นตอนที่5 พอคลิกแล้วจะขึ้นตามรูปจากนั้นให้กรอกข้อมูลลงไป เลือกแม่แบบตามใจชอบ
- ขั้นตอนที่ 6 คลิกปุ่มตามรูป
- ขั้นตอนที่ 7 ใส่ข้อมูลต่างๆ
- ขั้นตอนที่ 8 คลิกปุ่ม "แสดงตัวอย่าง" ถ้าชอบแล้วกดบันทึก
บทที่ 3
วิธีการดำเนินโครงงาน
วิธีการดำเนินโครงงาน
วัสดุและอุปกรณ์
- โปรแกรม Microsoft Word 2013
วิธีการดำเนินโครงงาน
ที่
|
ขั้นตอนในการดำเนินงาน
|
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
| ||||||||||||||||
| วันแรก |
สัปดาห์ที่ 1
|
สัปดาห์ที่ 2
|
สัปดาห์ที่ 3
| |||||||||||||||
1
|
คิดชื่อหัวข้อโครงงาน
| |||||||||||||||||
2
|
ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล
| |||||||||||||||||
3
|
จัดทำเค้าโครงงานเสนออาจารย์ที่ปรึกษา
| |||||||||||||||||
4
|
ศึกษาโปรแกรมBlogger ในการสร้าง
| |||||||||||||||||
5
|
ออกแบบสื่อBlogger
| |||||||||||||||||
6
|
จัดทำโครงงานสร้าง สื่อ Blogger เรื่องโรคมะเร็ง
| |||||||||||||||||
7
|
นำเสนอผ่านโปรแกรมBlogger
| |||||||||||||||||
8
|
ทำเอกสารสรุปโครงงาน
| |||||||||||||||||
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) เรื่อง สัตว์ป่าสงวนนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) และค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน เพื่อให้ผู้จัดทำโครงงานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดำเนินงานโครงงาน ดังนี้
ผลการพัฒนาเว็บบล็อก
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) เรื่อง สัตว์ป่าสงวน นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ https://animaljaya.blogspot.com/จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อ http://animaljaya.blogspot.comซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ facebook ของผู้จัดทำที่ชื่อ Nongnapat Manee ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
บทที่ 5
สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ
การจัดทำโครงงานโรคมะเร็ง นี้สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน
5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง สัตว์ป่าสงวน
2. เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3. เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป
5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
1. โปรแกรม Microsoft Word 2010
5.2 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) เรื่อง สัตว์ป่าสงวน นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ จากนั้นhttps://animaljaya.blogspot.comได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อhttps://animaljaya.blogspot.com ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ facebook ของผู้จัดทำที่ชื่อ Nongnapat Manee ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
5.3 ข้อเสนอแนะ
- เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ เป็นเว็บบล็อกสำเร็จรูปที่ใช้ทำเว็บไซต์ได้ง่าย และรวดเร็ว แต่ถ้าเราใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธิ์และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผู้จัดทำควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้และสิ่งดี ๆ นำไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
- ควรมีการจัดทำเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ควรมีการจัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม
- ควรมีการจัดทำเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ควรมีการจัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม
5.4 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
- ด้วยระยะเวลาอันจำกัด รวมทั้งกิจกรรมของโรงเรียน จึงทำให้การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย




















